สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงกว่า 5% หลุดระดับ 60 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังสื่อรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียจะใช้เวลาน้อยกว่าคาดในการฟื้นกำลังการผลิตน้ำมัน หลังแหล่งผลิตน้ำมันถูกโจมตีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังดิ่งลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน แม้ว่าสหรัฐกล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 3.31 ดอลลาร์ หรือ 5.26% สู่ระดับ 59.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า การฟื้นกำลังการผลิตน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย จะกลับสู่ระดับปกติภายในเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์
ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ซาอุดี อารามโคจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่การผลิตจะกลับสู่ระดับปกติ หลังจากที่โรงงานน้ำมันของบริษัทในเขต Abqaiq และ Khurais ถูกโจมตีด้วยโดรนจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้การผลิตน้ำมันลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย
ขณะนี้ ซาอุดีอาระเบียสามารถฟื้นการผลิตน้ำมันได้ราว 70% แล้ว ขณะที่เหตุการณ์โจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการส่งออกน้ำมัน เนื่องจากซาอุดีอาระเบียมีปริมาณน้ำมันสำรองจำนวนมาก
ทั้งนี้ ซาอุดี อารามโค ยืนยันต่อลูกค้า ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันในเอเชียว่า ทางบริษัทสามารถจัดส่งน้ำมันดิบในเดือนก.ย.และต.ค.อย่างเต็มจำนวนตามสัญญา แม้แหล่งผลิตน้ำมันของบริษัทได้ถูกโจมตีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวระบุว่า โรงกลั่นน้ำมันในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และไทย ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ในตลาดเอเชียของซาอุดี อารามโคสำหรับการนำเข้าน้ำมันดิบ Arab Light และ Arab Extra Light
ทั้งนี้ โรงกลั่นในเอเชียซื้อน้ำมันดิบที่ส่งออกจากซาอุดีอาระเบียมากกว่า 70%