สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดจะปรับตัวลดลง เนื่องจากการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 58.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 64.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า ซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย จะสามารถฟื้นการผลิตที่ขาดหายไปในช่วงก่อนหน้านี้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ แต่การที่จะเพิ่มกำลังการผลิตกลับสู่ระดับ 12 ล้านบาร์เรล/วันต้องรอถึงช่วงสิ้นเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ โรงงานน้ำมันสองแห่งในเขต Abqaiq และ Khurais ถูกโจมตีด้วยโดรนจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ส่งผลให้การผลิตน้ำมันลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน หรือครึ่งหนึ่งของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคิดเป็น 5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 592,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย.