สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังมีข่าวว่า สหรัฐได้ยื่นข้อเสนอที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการเจรจา
อย่างไรก็ดี การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และกระทรวงการตต่างประเทศสหรัฐออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว ก็ได้ช่วยให้ราคาน้ำมันลดช่วงติดลบ หลังจากทรุดตัวลงเกือบ 2% ในช่วงแรก
ณ เวลา 20.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 91 เซนต์ หรือ 1.61% สู่ระดับ 55.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ผู้นำอิหร่านที่ว่า สหรัฐได้ยื่นข้อเสนอที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการเจรจา
"อิหร่านต้องการให้ผมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเพื่อที่จะพบปะกับผม ซึ่งแน่นอน ผมพูดว่า 'ไม่' " ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า รายงานข่าวที่ว่า สหรัฐได้ยื่นข้อเสนอที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการเจรจานั้น ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
แถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นในมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดยจะไม่ให้มีการส่งออกน้ำมันจากอิหร่าน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ผู้นำอิหร่าน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐได้ยื่นข้อเสนอที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการเจรจากับอิหร่าน
"ผู้นำของเยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศสต่างอยู่ในนครนิวยอร์ก และทุกคนยืนกรานว่าการประชุมเช่นนี้จะเกิดขึ้น ซึ่งทางอเมริกาก็บอกว่าจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร เราคงต้องคุยกันว่าจะมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรใดบ้าง ซึ่งพวกเขาพูดอย่างชัดเจนว่าจะมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทุกอย่าง"
"แต่การดำเนินการนี้ไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่ยอมรับได้ ซึ่งหมายความว่าในบรรยากาศของการคว่ำบาตร และการคงมาตรการคว่ำบาตรต่อไป ขณะที่มีการกดดันขั้นสูงสุด และถึงแม้เราเจรจากับทางอเมริกาในกรอบ 5+1 แต่ก็ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าการประชุมจะมีผลลัพธ์อย่างไร" นายรูฮานีระบุ
ขณะเดียวกัน อัตราค่าระวางสำหรับการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังเอเชียพุ่งขึ้นเกือบ 30% ในวันนี้ ท่ามกลางภาวะปั่นป่วนในตลาดการขนส่งน้ำมันทั่วโลก หลังจากที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทในเครือของ COSCO ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งและโลจิสติกส์ใหญ่ที่สุดของจีน เนื่องจากพบว่าบริษัทพัวพันกับการขนส่งน้ำมันดิบออกจากอิหร่าน
มาตรการคว่ำบาตร COSCO ในวันนี้ ส่งผลให้อัตราค่าระวางพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ย. หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ COSCO นับเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ทั้งในแง่ของจำนวนเรือ และปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการขนส่ง โดยบริษัทเป็นเจ้าของเรือ 1,114 ลำ ซึ่งรวมถึงเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองจำนวน 365 ลำ และเรือบรรทุกน้ำมัน 120 ลำ โดยมีเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ (VLCC) จำนวนมากกว่า 50 ลำ หรือคิดเป็น 7.5% ของจำนวนเรือ VLCC ทั่วโลก
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่สหรัฐได้เคยดำเนินการมา นับตั้งแต่ที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ท่ามกลางความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการกดดันอิหร่านให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ "มีความสับสนในตลาดสำหรับผู้ที่ได้จองเรือไว้กับ COSCO โดยทุกคนต่างก็ต้องการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ" เทรดเดอร์น้ำมันรายหนึ่งของสิงคโปร์กล่าว ทั้งนี้ ผู้ซื้อน้ำมันจากเอเชียต่างแห่กันเช่าเรือบรรทุกน้ำมัน หลังจากที่สหรัฐมีคำสั่งคว่ำบาตรบริษัท COSCO Shipping Tanker (Dalian) Co, Ltd. และบริษัท COSCO Shipping Tanker (Dalian) Seaman & Ship Management Co, Ltd. ซึ่งต่างก็เป็นบริษัทในเครือของ COSCO ส่งผลให้ค่าระวางสำหรับการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังอินเดียในเดือนต.ค.ทะยานขึ้น 28% ส่วนค่าระวางของเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ (VLCC) สำหรับการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางไปยังเอเชียเหนือพุ่งขึ้นเกือบ 19% ซึ่งหมายความว่าค่าระวางจะเพิ่มขึ้นถึง 600,000 ดอลลาร์ต่อเรือ 1 ลำ