สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้รับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปีนี้และปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 52.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศขึ้นบัญชีดำต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน 28 แห่ง โดยอ้างว่าบริษัทเหล่านี้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิม ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียง
รายงานล่าสุดระบุว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ข่มเหงและจับกุมชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากในมณฑลซินเจียง
ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนเตรียมตอบโต้สหรัฐในเรื่องดังกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันในตลาดโลกปีนี้ลงสู่ระดับ 840,000 บาร์เรลต่อวัน โดยลดลง 50,000 ล้านบาร์เรลจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก.ย. และยังได้รับลดตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสำหรับปี 2563 ลง 100,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนจับตาสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐเตรียมกำหนดเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ต.ค.