สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ให้คำมั่นว่าจะพิจารณาทุกทางเลือกในการสร้างเสถียรภาพตลาดน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคืบหน้าด้วยดี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 53.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 59.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกกล่าวว่า ในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ โอเปกจะพิจารณาทุกทางเลือกเพื่อสร้างความสมดุล และสร้างเสถียรภาพตลาดน้ำมันในปีหน้า โดยการประชุมดังกล่าวจะมีการกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับปี 2563
ในความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อวานนี้ โอเปกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยระบุถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดในเอเชีย-แปซิฟิก
ทั้งนี้ โอเปกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในช่วงที่เหลือของปีนี้ สู่ระดับ 0.98 ล้านบาร์เรล/วัน โดยลดลง 40,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี โอเปกยังคงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีหน้าที่ระดับ 1.08 ล้านบาร์เรล/วัน
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน ในวันนี้ ซึ่งทำให้มีความหวังว่าสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า