สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 53.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1.16% ปิดที่ 59.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก ในการประชุมวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยในการประชุมครั้งนี้ ชาติสมาชิกโอเปกจะกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันสำหรับปี 2563
นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ในการประชุมเดือนธ.ค.ที่จะถึงนี้ โอเปกจะพิจารณาทุกทางเลือกเพื่อสร้างความสมดุล และสร้างเสถียรภาพตลาดน้ำมันในปีหน้า
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงาน หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในปี 2551-52 จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.ค.ที่ระดับ 3.2% และยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงสู่ระดับ 3.4% จากเดิมที่ระดับ 3.5%
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะพุ่งขึ้น 4 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ต.ค.