สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนได้แรงหนุนจากสัญญาณที่สดใสจากภาคการกลั่นน้ำมันของจีนและสหรัฐ แม้ตลาดมีความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนก็ตาม
ณ เวลา 18.07 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซึ่งมีการซื้อขายในตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.93% แตะที่ระดับ 54.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่โรงกลั่นน้ำมันของจีนมีปริมาณการกลั่นน้ำมันในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 56.49 ล้านตัน โดยได้แรงหนุนจากโรงกลั่นใหม่และโรงกลั่นอิสระบางแห่งที่กลับมาดำเนินการตามปกติหลังจากการซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น แม้สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ขยายตัว 6.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.1%
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากสต็อกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ลดลงในสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ต.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า คณะกรรมการด้านเทคนิคร่วมที่ตรวจสอบข้อตกลงการผลิตน้ำมันโลกทั่วระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรนั้น พบว่า การปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันนั้นสูงเกินคาด โดยมีการปรับลดการผลิตน้ำมันลงในเดือนก.ย.คิดเป็น 236% ของโควต้าที่ตกลงกัน
ทั้งนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตรซึ่งรวมถึงรัสเซีย ได้ตกลงกันที่จะจำกัดการผลิตน้ำมันไม่เกิน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงเดือนมี.ค. 2563
ส่วนรายงานล่าสุดของโอเปกบ่งชี้ว่า โอเปกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2562 ลงสู่ 0.98 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่คงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันในปี 2563 ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.08 ล้านบาร์เรล/วัน