สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 56.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 61.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ต.ค. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรจะพิจารณาเกี่ยวกับการเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมกำหนดนโยบายวันที่ 5-6 ธ.ค. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอในปีหน้า
ทั้งนี้ โอเปกบรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.2563 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยจะปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน