สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัว ซึ่งได้ช่วยชดเชยความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 56.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 62.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
Carsten Fritsch นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของ Commerzbank Research กล่าวว่า "ขณะที่สัญญาณความตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลกผ่อนคลายลง ตลาดจึงมุ่งความสนใจไปที่ภาวะอุปทานอีกครั้ง ซึ่งค่อนข้างตึงตัวในไตรมาสปัจจุบัน"
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 17 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 696 แท่น หลังจากเพิ่มขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ต.ค. โดยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะลดกำลังการผลิตลงมากขึ้นในการประชุมกำหนดนโยบายในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อรับมือกับการขยายตัวของอุปสงค์ที่อ่อนแอลง