สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 55 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีการเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกระทบจากความผิดหวังต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 76 เซนต์ หรือ 1.37% สู่ระดับ 54.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศชิลีในเดือนหน้า
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การที่ผู้นำทั้งสองไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าในเดือนหน้า มีสาเหตุจากการที่ทั้งสองฝ่ายยังคงต้องใช้เวลาในการเจรจามากขึ้น ขณะที่สหรัฐต้องการให้จีนให้คำมั่นสัญญาในการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญร่า ผู้นำชิลี ประกาศยกเลิกการประชุมเอเปคที่มีกำหนดจัดขึ้นในเมืองซานติอาโกในเดือนหน้า ท่ามกลางเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นในประเทศ
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร จะประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 5-6 ธ.ค.
นายราเวล โซโรคิน รมช.พลังงานรัสเซีย กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่กลุ่มโอเปกและพันธมิตร จะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น
ทั้งนี้ โอเปกบรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.2563 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยจะปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน