สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของรัฐบาลสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ และการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนาในเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 56.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 62.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Economic Club of New York เมื่อวานนี้ว่า สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก และจีนเองก็ต้องการที่จะทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้กล่าวถึงการที่สหรัฐจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน หรือการที่เขาจะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเพื่อลงนามในข้อตกลงการค้า
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของไอเอชเอส มาร์กิต คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ย. ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซลและฮีทติ้งออยล์ จะลดลง 500,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการประชุมนโยบายการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรในวันที่ 5-6 ธ.ค. ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรเลีย ขณะที่เจ้าหน้าที่โอเปกและชาติพันธมิตรได้เริ่มออกมาส่งสัญญาณเป็นระยะๆ โดยนายราเวล โซโรคิน รมช.พลังงานรัสเซียกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่กลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น ทางด้านเจ้าหน้าที่ของโอมานคาดว่า โอเปกและพันธมิตรจะขยายเวลาในการปรับลดการผลิตออกไป แต่จะไม่เพิ่มการปรับลดกำลังการผลิต
ทั้งนี้ โอเปกบรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.2563 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยจะปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน