สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรจะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 5-6 ธ.ค.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ณ เวลา 22.55 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.58% สู่ระดับ 57.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนคาดว่าโอเปกและประเทศพันธมิตรจะยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 5-6 ธ.ค.
ทั้งนี้ โอเปกบรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.2563 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า การเจรจาทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนได้จัดการประชุมทางวิดีโอระดับคณะทำงานในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นในประเด็นต่างๆ ตั้งแต่รายละเอียดและกำหนดเวลาที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ เช่น เนื้อหมูและถั่วเหลือง ไปจนถึงประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเผชิญอุปสรรคจากการที่สหรัฐเรียกร้องให้จีนซื้อสินค้าเกษตรมากขึ้น ขณะที่จีนปฏิเสธเงื่อนไขของสหรัฐที่ต้องการให้จีนยุติการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี และจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก
ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 3 มากกว่าระดับ 435,000 บาร์เรล/วันในไตรมาส 2
ทั้งนี้ IEA ระบุว่า จีนเป็นประเทศที่มีอุปสงค์น้ำมันสูงสุด โดยเพิ่มขึ้น 640,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ IEA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาทั้งปี 2562 IEA คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552 โดยได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ลดลงในการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นต่างๆ
ขณะเดียวกัน IEA ระบุว่า อุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ขณะที่สหรัฐ นอร์เวย์ และแคนาดาเพิ่มการผลิต ส่วนซาอุดีอาระเบียสามารถฟื้นฟูกำลังการผลิตสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ดี ผลผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกอยู่ที่ระดับ 29.9 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว