สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้า, แนวโน้มที่โอเปกจะปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 57.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 1.61% ปิดที่ 63.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.8% และ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.3%
ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังนายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐระบุในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ บิสิเนส เน็ตเวิร์คว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่สหรัฐจะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน โดยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนทางโทรศัพท์ยังคงดำเนินต่อไปในวันศุกร์
ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้
นอกจากนี้ การเปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ลดลงในสหรัฐ ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 10 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 674 แท่น โดยปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน