สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากราคาปรับตัวขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการค้าโลก และแนวโน้มการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 57.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.1% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.1%
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังราคาพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และตลาดยังกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานข่าวว่า รัสเซียอาจจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้
ส่วนการเปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ไม่ได้ช่วยหนุนตลาด โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 3 แท่นในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 671 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2560