สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง รวมทั้งมุมมองบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปถึงกลางปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 58.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 64.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังในการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ สหรัฐกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน ขณะที่นางเคลลีแอนน์ คอนเวย์ ที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก หลังจากเจ้าหน้าที่การค้าของทั้งสองฝ่ายได้หารือกันทางโทรศัพท์ และตกลงที่จะเดินหน้าเจรจาร่วมกันต่อไป
ขณะเดียวกันนักลงทุนขานรับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจบางแห่งซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงกว่า 4 แสนบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. ซึ่งจะเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมต่อไปถึงกลางปีหน้า โดยกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรจะประชุมนโยบายการผลิตน้ำมันในวันที่ 5-6 ธ.ค. ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย