สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐ-จีน และตลาดยังถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่มีแนวโน้มแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ราคาน้ำมันยังคงปิดบวกเมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะตกลงกันในสัปดาห์หน้า เพื่อขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมันต่อไปหลังจากเดือนมี.ค. 2563
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 2.94 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 55.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.44 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 62.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงทั้งสิ้น 4.1% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 1.5%
แต่ทั้งเดือนพ.ย. สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.8% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 3.7%
ตลาดน้ำมันร่วงลงอย่างรุนแรง ท่ามกลางการซื้อขายที่ยังคงเบาบาง หลังตลาดปิดทำการเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ราคาน้ำมันร่วงลงจากแรงเทขาย เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามอนุมัติกฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีน โดยจีนประกาศว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้กับสิ่งที่จีนมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 พ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 418,000 บาร์เรล และการผลิตน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร ในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้ ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า โอเปกและรัสเซียอาจตัดสินใจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอย่างน้อยจนถึงกลางปีหน้า
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โอเปกได้บรรลุข้อตกลงกับรัสเซียและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศ เพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค. 2563 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน