สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) ขานรับดัชนีภาคการผลิตของจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนพ.ย. รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะตัดสินใจขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน รวมทั้งปรับลดการผลิตน้ำมันในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ในการประชุมสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 55.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 60.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสื่อรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า โอเปกและพันธมิตร ซึ่งรวมถึงรัสเซีย จะตัดสินใจขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมี.ค.2563 และลดการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 400,000 บาร์เรล/วัน ในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิต ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรอาจตัดสินใจขยายเวลาการปรับลดกำลังผลิตน้ำมันออกไปอย่างน้อยจนถึงกลางปีหน้า
ทั้งนี้ รัฐมนตรีพลังงานของโอเปกจะประชุมกันในวันที่ 5 ธ.ค. ก่อนที่ตัวแทนจากกลุ่มประเทศพันธมิตรจะเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 6 ธ.ค.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 51.8 ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.5
ข้อมูลของไฉซินออกมาสอดคล้องกับที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 50.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.3 ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพุธนี้ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย