สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 4% เมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในการประชุมวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.33 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 58.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.18 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 63.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 700,000 บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 460,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากนายเทเมอร์ กาดบาน รมว.น้ำมันอิรัก กล่าวว่า สมาชิกหลายชาติของกลุ่มโอเปกต้องการให้มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในการประชุมวันนี้ ทางด้านนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.น้ำมันรัสเซีย กล่าวว่า เขาคาดหวังว่า การประชุมโอเปกและพันธมิตรในครั้งนี้ จะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของรมว.น้ำมันอิรักและรัสเซียมีขึ้นก่อนที่โอเปกและพันธมิตรจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียในสัปดาห์นี้ โดยรัฐมนตรีพลังงานของโอเปกจะประชุมกันในวันที่ 5 ธ.ค. ก่อนที่ตัวแทนจากกลุ่มประเทศพันธมิตรจะเข้าร่วมการประชุมในวันที่ 6 ธ.ค.