สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังการส่งออกร่วงลงเป็นเดือนที่ 4
ณ เวลา 21.50 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.69% สู่ระดับ 58.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 1% เมื่อวันศุกร์ หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. 2563 จากเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันถูกกดดันในวันนี้ หลังจากที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.1% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้า โดยระบุถึงปริมาณน้ำมันสำรองที่จะตึงตัวมากขึ้น หลังจากที่โอเปกและประเทศพันธมิตรตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรล/วันในไตรมาสแรกของปีหน้า
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้า สู่ระดับ 63 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI สู่ระดับ 58.5 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 55.5 ดอลลาร์/บาร์เรล
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกและประเทศพันธมิตรจะทำให้ตลาดน้ำมันโลกในปีหน้าเกิดความสมดุล ขณะที่ปริมาณน้ำมันจะตึงตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 0.3 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันราว 50,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า โดยระบุถึงแนวโน้มการขยายตัวเพียงเล็กน้อยของเศรษฐกิจโลก โดยได้รับผลกระทบจากภาคการผลิตที่ซบเซา
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันที่ระดับ 0.9 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และ 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้าตามลำดับ