สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร จะปฏิบัติตามข้อตกลงที่จะปรับลดการผลิตลงอีกหรือไม่
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 59.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 64.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
Amarpreet Singh นักวิเคราะห์ราคาน้ำมันจากบริษัทบาร์เคลย์สระบุว่า "ตลาดน้ำมันถูกกดดันจากความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผลผลิตของโอเปกหลังวันที่ 31 มี.ค. 2563 และการคำนวณเป้าหมายการผลิตของรัสเซียที่ไม่รวมคอนเดนเซท"
ตลาดน้ำมันปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังพุ่งขึ้นกว่า 1% เมื่อวันศุกร์ ขานรับโอเปก และประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. 2563 จากเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.1% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการที่โกลด์แมน แซคส์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันราว 50,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า โดยระบุถึงแนวโน้มการขยายตัวเพียงเล็กน้อยของเศรษฐกิจโลก โดยได้รับผลกระทบจากภาคการผลิตที่ซบเซา
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันที่ระดับ 0.9 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และ 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้าตามลำดับ