สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนยังช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 60.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 65.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน และสหรัฐจะไม่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค.
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐและจีนจะเริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าเฟสสองโดยทันที แทนที่จะรอจนกว่าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนนั้น ปรับตัวขึ้น 6.2% ในเดือนพ.ย. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5%
ส่วนยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของจีนพุ่งขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.6% ขณะที่ยอดค้าปลีกในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 37.29 ล้านล้านหยวน (5.33 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย