สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 60.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 66.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันยังคงขานรับมุมมองบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุด นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ยืนยันว่า ข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีนได้เสร็จสิ้นแล้ว และการส่งออกของสหรัฐไปยังจีนจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว
ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในต้นเดือนม.ค. และหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะเริ่มต้นเจรจาทำข้อตกลงเฟสสอง
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดน้ำมันจะประสบภาวะตึงตัวในปีหน้า จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.63
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. ทางด้านนักวิเคราะห์ในโพลสำรวจอื่นๆคาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลงเช่นกัน