สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 60.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 66.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล มากกว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ต.
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนส่งคำสั่งขายทำกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก