สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งข่าวความคืบหน้าในการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐและจีน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 61.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ย.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 66.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค.
ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในต้นเดือนม.ค. และจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะเริ่มต้นเจรจาทำข้อตกลงเฟสสอง
ทั้งนี้ นายมนูชินเปิดเผยว่า ข้อตกลงเฟสแรกระบุถึงการถ่ายโอนเทคโนโลยี, ทรัพย์สินทางปัญญา, การซื้อสินค้าเกษตร, การเข้าถึงภาคบริการทางการเงิน และการดำเนินการด้านปริวรรตเงินตรา
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าตลาดน้ำมันจะประสบภาวะตึงตัวในปีหน้า หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. 2563