สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) โดยถูกกดดันหลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 60.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 66.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI บวก 0.8% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.4%
ตลาดน้ำมันถูกกดดัน หลังเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่มีการใช้งาน เพิ่มขึ้น 18 แท่น สู่ระดับ 685 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ และการตัดสินใจของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรเมื่อต้นเดือนนี้ที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงอีก 500,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. 2563 ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้