สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่า การทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะช่วยหนุนเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ดี แรงบวกของราคาน้ำมันได้ถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากรัสเซียระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรอาจพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้อยกว่าที่กำหนดไว้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 60.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 66.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปิดตลาดในแดนบวก ขานรับความหวังที่ว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเร็วๆนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่า รัฐบาลจีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้ากว่า 850 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูแช่แข็ง เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์กระดาษ และอุปกรณ์ไฮเทค โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวในกรอบแคบๆ และปิดตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากทางการรัสเซียระบุว่า โอเปกและประเทศพันธมิตรอาจพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันน้อยกว่า 500,000 บาร์เรล/วันที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 18 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 685 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบในวันศุกร์นี้ เวลาประมาณ 23.00 น.ตามเวลาไทย