สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ธ.ค.) หลังจากรัสเซียให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับกลุ่มประทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิต นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 61.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.22% ปิดที่ 67.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียยืนยันว่า รัสเซียและโอเปกจะเดินหน้าร่วมมือกันเพื่อปรับลดกำลังการผลิต หลังจากที่ประชุมโอเปกและประเทศพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. 2563 จากเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ โอเปกและประเทศพันธมิตรที่นำโดยรัสเซียลงมติดังกล่าวในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค. โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เวลาประมาณ 23.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเร็วๆนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก