สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงเกินคาด และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 61.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 68.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 2.1% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์บวก 3.7%
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนหลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 8 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 677 แท่น
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจลดลง 3 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 200,000 บาร์เรล
ส่วนสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลง 7.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว