สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 4% หลุดระดับ 60 ดอลลาร์ จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐจะตอบโต้อิหร่านโดยใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยไม่ได้ระบุถึงการใช้ปฏิบัติการทางทหาร หลังจากที่อิหร่านใช้ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักเมื่อวานนี้
ณ เวลา 00.04 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 4.67% สู่ระดับ 59.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวแถลงการณ์ต่อชาวอเมริกันในวันนี้ โดยยืนยันว่า ไม่มีชาวอเมริกันที่เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากการที่อิหร่านใช้ขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักเมื่อวานนี้
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า อิหร่านมีท่าทีที่อ่อนลง หลังการโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรัก
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า สหรัฐกำลังพิจารณาทางเลือกในการตอบโต้อิหร่าน โดยจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่ออิหร่าน
แหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐและยุโรประบุว่า อิหร่านจงใจยิงขีปนาวุธพลาดเป้า ในการโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรักเมื่อวานนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตของทหารสหรัฐ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า อิหร่านจงใจยิงขีปนาวุธพลาดเป้า เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นจนควบคุมไม่ได้ ขณะที่ยังคงส่งสัญญาณว่าอิหร่านพร้อมที่จะตอบโต้สหรัฐที่ได้สังหารนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน
สถานีโทรทัศน์อิหร่านรายงานว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธ 15 ลูกโจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรัก ส่งผลให้"ผู้ก่อการร้ายชาวอเมริกัน"เสียชีวิต 80 ราย และสร้างความเสียหายต่อเฮลิคอปเตอร์ และยุทโธปกรณ์ของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า ไม่มีทหารสหรัฐที่เสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านทวีตข้อความในวันนี้ ซึ่งได้ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความขัดแย้งที่จะลุกลามบานปลายมากขึ้น
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความระบุว่า "ทุกอย่างเรียบร้อยดี ขีปนาวุธหลายลูกถูกยิงมาจากอิหร่าน พุ่งเป้าโจมตีฐานทัพอากาศสองแห่งที่ตั้งอยู่ในอิรัก เรากำลังประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและความเสียหาย และจนถึงขณะนี้ ทุกอย่างเรียบร้อยดี เรามีแสนยานุภาพที่แข็งแกร่งที่สุด และมีฐานทัพทหารพร้อมยุทโธปกรณ์อยู่ทุกหนแห่งในโลก"
ด้านนายโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า การโจมตีฐานทัพสหรัฐเป็นไปอย่างเหมาะสม และอิหร่านไม่ต้องการเพิ่มความขัดแย้ง หรือการทำสงคราม
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดัน หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.95 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 9.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 5.0 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้น 4.5% หรือ 2.85 ดอลลาร์ แตะระดับ 65.65 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงแรก ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ทันทีที่มีข่าวว่าอิหร่านได้โจมตีฐานทัพสหรัฐในอิรัก
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้เริ่มอ่อนตัวลง หลังจากเป็นที่ปรากฎชัดว่าการโจมตีของอิหร่านไม่ได้กระทบต่อแหล่งผลิตน้ำมันในอิรัก
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะขาดแคลนน้ำมันในตลาด หลังจากที่นายซูฮาอิล อัล มาซรูเอ รมว.พลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อรองรับการขาดแคลนในตลาด หากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในภูมิภาค
"ตลาดยังคงมีปริมาณน้ำมันอย่างเพียงพอ เราไม่คาดว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนอุปทาน นอกจากว่าจะเกิดเหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ ซึ่งเรามองว่ายังไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น" นายมาซรูเอกล่าว
นายมาซรูเอยังกล่าวเสริมว่า โอเปกและกลุ่มประเทศพันธมิตรนำโดยรัสเซีย จะทำการประเมินสถานการณ์ในการประชุมเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ นายมาซรูเอยังเรียกร้องให้สหรัฐและอิหร่านลดความตึงเครียดในภูมิภาค โดยระบุว่า "สิ่งที่เราต้องการคือเสถียรภาพในตลาด และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะลดความตึงเครียดลง"