ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 1.1% ในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการปิดท่าเรือลำเลียงน้ำมันหลายแห่งในลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ณ เวลา 07.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.18% แตะที่ระดับ 59.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
บริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ปอเรชั่น (NOC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของรัฐบาลลิเบีย ประกาศภาวะสุดวิสัย (force majeure) ด้านการส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือ 5 แห่งภายในประเทศ หลังจากกองกำลังแห่งชาติลิเบียได้สั่งปิดท่าเรือดังกล่าว
ทั้งนี้ ภาวะสุดวิสัย เป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ข้อพิพาทด้านแรงงาน การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แถลงการณ์ของ NOC ระบุว่า "กองกำลังแห่งชาติลิเบียได้สั่งการให้หน่วยงานในเครือของ NOC ระงับการส่งออกน้ำมันจากท่าเรือเบรกา, ท่าเรือราส ลานุฟ, ท่าเรือฮาริกา, ท่าเรือซูอีตินา และท่าเรือซีดรา ซึ่งการปิดท่าเรือเหล่านี้ส่งผลให้ลิเบียสูญเสียการผลิตน้ำมันดิบในปริมาณ 800,000 บาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ