สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 56.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 63.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากนายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันจะเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาดจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งระบุว่า ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากการที่ซาอุดีอาระเบียไม่ได้ส่งสัญญาณว่ากลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าเดือนมี.ค.
ส่วนข่าวการปิดท่าเรือลำเลียงน้ำมันในลิเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มโอเปกนั้น ไม่ได้ช่วยหนุนราคาน้ำมันแต่อย่างใด เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันที่หยุดชะงักลงในลิเบียจะได้รับการชดเชยจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลก
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลลล์สำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ม.ค.