สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่รัสเซียยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อข้อเสนอที่ให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 49.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 53.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนลบติดต่อกัน 2 วันทำการ โดยล่าสุดดิ่งหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกัลผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดย ณ วันอาทิตย์ที่ 9 ก.พ. ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 908 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มเป็น 40,171 ราย
คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร มีมติเสนอให้โอเปกปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 600,000 บาร์เรล/วัน เพื่อพยุงราคาน้ำมันซึ่งได้ทรุดตัวลง อันเนื่องมาจากความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
อย่างไรก็ดี นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียขอเวลาตัดสินใจในประเด็นดังกล่าว เพื่อวิเคราะห์ภาวะตลาดน้ำมัน และจะประกาศจุดยืนของรัสเซียในสัปดาห์นี้
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รัสเซียมีท่าทีคัดค้านข้อเสนอที่ให้กลุ่มโอเปกและพันธมิตรปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 600,000 บาร์เรล/วัน โดยเห็นว่าควรมีการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไป
ทั้งนี้ JTC ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่สามารถให้ข้อเสนอแก่โอเปกและชาติพันธมิตรเกี่ยวกับนโยบายการผลิต
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย