สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายใหม่ในจีนอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสดังกล่าวที่จะมีต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ สัญญาณบวกดังกล่าวยังช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 51.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 55.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงเมื่อวานนี้ว่า ณ วันอังคารที่ 11 ก.พ. จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2,015 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์หรือนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. โดยข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่นายโซ่ง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของจีนได้แสดงความเห็นว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนจะเบาบางลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
รายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 และเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยพุ่งขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 2.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ EIA ยังะรุบว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 100,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 900,000 บาร์เรล
นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของรัสเซียว่าจะให้การสนับสนุนต่อข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรหรือไม่ หลังจากหลังจากคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรมีมติเสนอให้โอเปกปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 600,000 บาร์เรล/วัน โดย JTC ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่สามารถให้ข้อเสนอแก่โอเปกและชาติพันธมิตรเกี่ยวกับนโยบายการผลิต
ส่วนในการประชุมของกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรในปีที่แล้ว ที่ประชุมมีมติปรับลดกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปีนี้