สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยล่าสุดสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกรายงานเตือนว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มหดตัวลงในไตรมาสแรก เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 52.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือประมาณ 0.75% ปิดที่ 57.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
IEA คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะหดตัวลงในไตรมาสแรก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุปสงค์น้ำมันทั่วโลก และราคาน้ำมัน อีกทั้งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตน้ำมันด้วย
ทั้งนี้ IEA คาดว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะลดลง 435,000 บาร์เรล/วันในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ IEA ยังได้ปรับลดการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ โดยปรับลดลง 365,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 825,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554
นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของรัสเซีย โดยจนถึงขณะนี้รัสเซียยังคงไม่แสดงท่าทีตอบรับหรือปฏิเสธต่อข้อเสนอที่ให้โอเปกและพันธมิตร เพิ่มการปรับลดกำลังการผลิต แม้ว่าก่อนหน้านี้รัสเซียระบุว่าจะให้คำตอบในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) ของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร มีมติเสนอให้โอเปกปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 600,000 บาร์เรล/วัน เพื่อพยุงราคาน้ำมันซึ่งได้ทรุดตัวลง อันเนื่องมาจากความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
อย่างไรก็ดี JTC ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่สามารถให้ข้อเสนอแก่โอเปกและชาติพันธมิตรเกี่ยวกับนโยบายการผลิต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย