สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนมี.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ.
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 59.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.
สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 600,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบลดช่วงบวกในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก โดยรัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 รายแรกในประเทศ และยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเพิ่มอีก 22 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 104 ราย
ทางด้านญี่ปุ่นยืนยันว่ามีผู้โดยสารบนเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส จำนวน 2 รายเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 3 ราย