สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจลุกลามเป็นวงกว้าง หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ออกมาเตือนให้ชาวอเมริกันเตรียมพร้อมกับมือกับไวรัสโควิด-19 ที่อาจแพร่ระบาดอย่างหนักในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 49.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 2563
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ดิ่งลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 54.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 2563
นักลงทุนเดินหน้าเทขายสัญญาน้ำมันดิบ ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมัน WTI ปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และฉุดความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลกให้ชะลอตัวลงด้วย
กระแสความกังวลในเรื่องดังกล่าวมีมากขึ้นหลังจากดร.แนนซี เมสซันเนียร์ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิคุ้มกันและโรคทางเดินหายใจแห่งชาติของสหรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ได้ออกมาเตือนให้ชาวอเมริกันเตรียมพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐอาจจะอยู่ในขั้นร้ายแรง
ทั้งนี้ ข้อมูลของ CDC ณ วันอังคารที่ 25 ก.พ.ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 57 ราย ขณะที่สถานการณ์ในประเทศอื่นๆนั้น สวิสเซอร์แลนด์ยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกในประเทศ ส่งผลให้สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ 9 ในยุโรปที่มีรายงานการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทางด้านอิหร่านยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าว 16 ราย ส่งผลให้อิหร่านกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกเหนือจากจีน
นอกเหนือจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิดแล้ว นักลงทุนยังรอดูตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.พ.