สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) โดยทำสถิติร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เพิ่มขึ้นนอกประเทศจีนในขณะนี้ จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกและทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.64 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2562
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 52.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2561
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งหลุดจากระดับ 46 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก
คาร์สเท็น ฟริทช์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานของคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ช กล่าวว่า เมื่อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนและทำให้การผลิตหยุดชะงัก ก็จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเพื่อการขนส่งและผลิตน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกที่ไม่ทราบต้นตอของการติดเชื้อ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มาจากเขตโซลาโนของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยไม่มีประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงและไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้การแพร่ระบาดในชุมชนเป็นครั้งแรกในสหรัฐ หลังจากที่เกิดขึ้นมาแล้วในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
นอกจากนี้ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นในอีกหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,595 ราย จนส่งผลให้แบงก์ชาติเกาหลีใต้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP ในปีนี้ลงเหลือ 2.1% ขณะที่อิตาลีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 14 รายและผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นแตะ 528 ราย ส่วนอิหร่านเผยยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 245 รายและยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 26 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตสูงที่สุดนอกประเทศจีน
นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรในวันที่ 5-6 มี.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ขณะที่ชีคโมฮัมหมัด บิน คาลิฟา อัล คาลิฟา รมว.น้ำมันของบาห์เรน กล่าวว่า โอเปกและพันธมิตรจะพิจารณาการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 600,000 บาร์เรล/วัน ในการประชุมครั้งนี้
ส่วนในการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรในปีที่แล้ว ที่ประชุมมีมติปรับลดกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปีนี้