สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 51.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มโอเปกและพันธมิตรในวันที่ 5-6 มี.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีมติปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อเสนอเดิมที่ระดับ 600,000 บาร์เรล/วัน
สำหรับในการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรในปีที่แล้ว ที่ประชุมมีมติปรับลดกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรล/วัน รวมเป็น 1.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ปีนี้
อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันค่อนข้างผันผวนเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวของเฟดทำให้นักลงทุนกังวลว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) นั้น อาจรุนแรงกว่าที่คาดไว้
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ.