สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) หลังจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้นในสหรัฐและอีกหลายประเทศ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกทรุดตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 45.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 49.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 หลังจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐและอีกหลายประเทศ โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 159 ราย และยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศอยู่ที่ 11 ราย
ส่วนข้อมูลล่าสุดจาก "Johns Hopkins Whiting School of Engineering" ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกในขณะนี้อยู่ที่ 97,870 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 3,347 ราย
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปก ซึ่งมีสมาชิก 14 ประเทศ ได้จัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะประชุมร่วมกับอีก 10 ประเทศพันธมิตร นำโดยรัสเซีย ในวันนี้
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมานั้น รัสเซียมีท่าทีคัดค้านข้อเสนอที่ให้โอเปกและพันธมิตรปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น โดยเห็นว่าควรมีการขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2