สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการทำสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย รวมทั้งความวิตกที่ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ จะยิ่งฉุดความต้องการใช้น้ำมัน หลังจากที่ได้รับผลกระทบอยู่ก่อนแล้วจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 23.49 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.48% สู่ระดับ 31.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ทรุดตัวลงกว่า 24% ในสัปดาห์นี้ ทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2551
ซาอุดีอาระเบียประกาศแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี หลังจากที่ระบุก่อนหน้านี้ว่าจะผลิตน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการทำสงครามราคากับรัสเซีย
ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีคำสั่งให้บริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน
ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมันราว 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงลดกำลังการผลิตที่ทำไว้กับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียมองไม่เห็นประโยชน์ในการกลับมาเจรจากับกลุ่มโอเปก และพันธมิตร
นอกจากนี้ นายโนวัคยังระบุว่า รัสเซียสามารถเพิ่มการผลิตน้ำมันอีก 200,000 บาร์เรลในเดือนหน้า
ท่าทีของนายโนวัคในวันนี้ ถือว่าแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า รัสเซียยังไม่ได้ปิดประตูการเจรจากับโอเปกเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน