สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการใช้มาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 2.8% ปิดที่ 24.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 27.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นขานรับรายงานที่ว่า นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการใช้มาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวมีวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวซึ่งนำเสนอโดยทำเนียบขาว
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด โดยมีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนจับตาการรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 มี.ค.