สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) ขานรับปัจจัยบวกจากการที่ทำเนียบขาวและวุฒิสภาสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 24.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 27.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากทำเนียบขาวและแกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสามารถบรรลุข้อตกลงในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการดังกล่าวมีวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์
ภายใต้มาตรการดังกล่าวนี้ ชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จะได้รับเงินสดโดยตรงคนละ 1,200 ดอลลาร์ ขณะที่เด็กจะได้รับเช็คเงินสดคนละ 500 ดอลลาร์ ส่วนโรงพยาบาลต่างๆจะได้รับการจัดสรรเงินรวม 1.50 แสนล้านดอลลาร์ และธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับเงินช่วยเหลือในวงเงินรวม 3.67 แสนล้านดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 700,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังขานรับข่าวสหรัฐอาสาเป็นกาวใจระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย เพื่อหวังหย่าศึกราคาน้ำมัน โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐแถลงว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ได้หารือกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย เพื่อให้ซาอุดีอาระเบียยุติการทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพในตลาดพลังงานโลก