สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 4% หลุดระดับ 24 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐระงับแผนซื้อน้ำมันกักเก็บในคลังสำรอง เนื่องจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณ
ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.07 ดอลลาร์ หรือ 4.37% สู่ระดับ 23.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐประกาศระงับแผนการซื้อน้ำมันเพื่อกักเก็บในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เนื่องจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ในร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์นั้น ไม่มีการตั้งงบประมาณเพื่อการซื้อน้ำมันสำหรับกักเก็บใน SPR แต่อย่างใด
ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาเมื่อวานนี้ ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรจะทำการลงมติในวันพรุ่งนี้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐแถลงเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ว่า ทางกระทรวงฯจะเข้าซื้อน้ำมัน 30 ล้านบาร์เรล จากจำนวนทั้งหมด 77 ล้านบาร์เรลเพื่อกักเก็บใน SPR
การดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าจะดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตน้ำมันสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของราคาน้ำมันในระยะนี้ โดยรัฐบาลสหรัฐมีแผนที่จะซื้อน้ำมันดังกล่าวจากผู้ผลิตขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยจะซื้อทั้งน้ำมันดิบแบบ sweet และ sour
ทั้งนี้ สหรัฐกักเก็บน้ำมันสำรองใน SPR ที่อยู่ในรัฐเท็กซัส และหลุยเซียนา
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการทำสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ โดยรัสเซียยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2