สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 7% ทะลุ 21 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังมีข่าวว่า ผู้นำสหรัฐและรัสเซียเห็นพ้องกันในการจัดการเจรจาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
ณ เวลา 18.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 7.07% สู่ระดับ 21.51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปิดตลาดวานนี้ที่ 20.90 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2545
ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เห็นพ้องกันในการจัดการเจรจาเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันในประเด็นดังกล่าวในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์ โดยเจ้าหน้าที่ด้านพลังงานของทั้งสองประเทศจะจัดการเจรจาเกี่ยวกับภาวะตลาดน้ำมัน ขณะที่ราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 18 ปีเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกประสบภาวะถดถอย ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน
ซาอุดีอาระเบียประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ โดยรัสเซียยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2
เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียรายหนึ่งยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียยังไม่ได้มีการเจรจากับรัสเซียเพื่อสร้างความสมดุลต่อตลาดน้ำมัน แม้นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ พยายามโน้มน้าวให้เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ยุติการทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบียแถลงว่า ซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ 600,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 10.6 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.
บริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ประกาศก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 13 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ 12 ล้านบาร์เรล/วัน