สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 25% เมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะยุติลง และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 5.01 ดอลลาร์ หรือ 24.7% ปิดที่ 25.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 5.20 ดอลลาร์ หรือ 21% ปิดที่ 29.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยหนุนหลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาได้หารือกับผู้นำซาอุดีอาระเบียและรัสเซียเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก ซึ่งเขาเชื่อว่าประเทศทั้งสองจะบรรลุข้อตกลงในการยุติการทำสงครามราคาในอีกไม่กี่วัน นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังคาดว่า ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตราว 10 ล้านบาร์เรล หรืออาจมากถึง 15 ล้านบาร์เรล เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
การแสดงความเห็นของปธน.ทรัมป์ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย หลังจากซาอุดีอาระเบียได้ประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย ภายหลังจากที่รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ โดยรัสเซียยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดีอาระเบีย เรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งรัสเซียและประเทศพันธมิตร จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวของซาอุดีอาระเบียเป็นการส่งสัญญาณว่า ซาอุดีอาระเบียพร้อมที่จะยุติการทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย
ทางด้านนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย กล่าวเช่นกันว่า รัสเซียไม่มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในขณะนี้