สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมทั้งรัสเซียและพันธมิตร จะบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมทางไกลในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.02 ดอลลาร์ หรือ 11.9% ปิดที่ 28.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 4.17 ดอลลาร์ หรือ 13.9% ปิดที่ 34.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 31.8% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 22%
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ จะหารือเรื่องการปรับลดการผลิตน้ำมันอย่างน้อย 6 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมทางไกลในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะมีมติปรับลดกำลังการผลิตในวันจันทร์ แต่ก็อาจไม่สามารถหนุนราคาน้ำมันได้มากนัก เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกประสบกับภาวะถดถอย และกระทบอุปสงค์น้ำมัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า เขาได้หารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และมกุฏราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเขาคาดว่า ทั้งสองประเทศอาจปรับลดกำลังการผลิตลงราว 10 ล้านบาร์เรล หรืออาจมากถึง 15 ล้านบาร์เรล เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด
ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า เขาเชื่อว่าประเทศทั้งสองจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการยุติการทำสงครามราคาในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่การผลิตน้ำมันของสหรัฐอาจจะลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า หลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน ลดลง 62 แท่น สู่ระดับ 562 แท่นในสัปดาห์นี้ หลังจากลดลง 40 แท่นในสัปดาห์ก่อนหน้านี้