สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกที่ชะลอตัวลง หลังจากรัฐบาลในหลายประเทศประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 22.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 31.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นขานรับกลุ่มโอเปกพลัสที่บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย. จากนั้นจะปรับลดการผลิต 8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2563 และจะปรับลด 6 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.2564 ไปจนถึงเดือนเม.ย.2565
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ออกมาขานรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยระบุว่า การที่กลุ่มโอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตจะช่วยปกป้องแรงงานในอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐได้หลายหมื่นตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงในเวลาต่อมา ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่รัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลกประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
นอกจากนี้ การที่โกลด์แมน แซคส์ ได้ออกมาแสดงความเห็นในด้านลบเกี่ยวกับการทำข้อตกลงของกลุ่มโอเปกพลัส ยังสร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันด้วย โดยโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การที่โอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันโกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะร่วงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย