สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พลิกพุ่งขึ้นกว่า 6% โดยดีดตัวเหนือระดับ 13 ดอลลาร์ ขานรับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของสหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอุปสงค์น้ำมันในตลาด
ณ เวลา 21.26 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 0.78 ดอลลาร์ หรือ 6.10% สู่ระดับ 13.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า รัฐนิวยอร์กจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจะมีการเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
นายคูโอโมกล่าวว่า จะมีการเปิดภาคการก่อสร้างและการผลิตในเฟสแรก ส่วนเฟสสองจะมีการประเมินธุรกิจเป็นรายกรณี โดยขึ้นอยู่กับความสำคัญของธุรกิจดังกล่าว
นอกจากนี้ รัฐอลาสกา, จอร์เจีย, เซาธ์ แคโรไลนา, เทนเนสซี และเท็กซัส ก็ได้เริ่มให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการแก่ลูกค้า
ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 15% ในช่วงแรก หลุดระดับ 11 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากที่ทรุดตัวลงเกือบ 25% วานนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
ราคาน้ำมันถูกกดดันหลังจากที่กองทุนน้ำมันสหรัฐ (USO) ซึ่งเป็นกองทุน ETF สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์ แถลงว่า ทางกองทุนจะเทขายสัญญาส่งมอบเดือนมิ.ย.ทั้งหมด เพื่อหันไปถือสัญญาที่มีระยะเวลาส่งมอบยาวนานกว่า
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการที่คลังเก็บน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ ขณะที่อุปสงค์น้ำมันดิ่งลงเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นักลงทุนวิตกว่าคลังเก็บน้ำมันของสหรัฐที่เมืองคูชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน WTI จะเต็มความจุในไม่ช้า โดยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 518.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. ใกล้แตะระดับ 535 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในปี 2560
ทั้งนี้ คลังเก็บน้ำมันที่เมืองคูชิ่งมีการกักเก็บน้ำมันราว 70% ของความจุทั้งหมด ณ ช่วงกลางเดือนเม.ย.
โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
โกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงร่วงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม