สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และการที่คลังน้ำมันของสหรัฐกำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า กองทุนน้ำมันสหรัฐ (USO) จะเทขายสัญญาส่งมอบเดือนมิ.ย.ทั้งหมด เพื่อหันไปถือสัญญาที่มีระยะเวลาส่งมอบยาวนานกว่า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 44 เซนต์ หรือ 3.4% ปิดที่ 12.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 20.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น หลังจากสำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดที่เรือบรรทุกน้ำมันในเมืองอัฟริน ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และความสามารถในการกักเก็บน้ำมันในคลังน้ำมันของสหรัฐที่ลดน้อยลงนั้น ยังคงเป็นปัจจัยฉุดตลาด
นักลงทุนวิตกว่าคลังเก็บน้ำมันของสหรัฐที่เมืองคูชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน WTI จะเต็มความจุในไม่ช้า โดยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 518.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. ใกล้แตะระดับ 535 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในปี 2560
ทั้งนี้ คลังเก็บน้ำมันที่เมืองคูชิ่งมีการกักเก็บน้ำมันราว 70% ของความจุทั้งหมด ณ ช่วงกลางเดือนเม.ย.
ขณะเดียวกันราคาน้ำมันได้ถูกกดดันหลังจากกองทุนน้ำมันสหรัฐ (USO) ซึ่งเป็นกองทุน ETF สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์ แถลงว่า ทางกองทุนจะเทขายสัญญาส่งมอบเดือนมิ.ย.ทั้งหมด เพื่อหันไปถือสัญญาที่มีระยะเวลาส่งมอบยาวนานกว่า
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังปรับตัวลงหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะลดลงถึง 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2563
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย