สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 30% โดยดีดตัวเหนือระดับ 16 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความหวังที่ว่าสหรัฐจะเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 22.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 4.16 ดอลลาร์ หรือ 33.71% สู่ระดับ 16.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 14 สัปดาห์ แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 9.8 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเกือบ 10 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนมีความหวังว่าสหรัฐจะเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังมีความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19
ทั้งนี้ บริษัท Gilead Sciences แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจในการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัท ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
Gilead ระบุว่า ผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir ซึ่งทางบริษัทดำเนินการร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้น
Gilead ยังเปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีอาการดีขึ้น หลังได้รับยา remdesivir
ทางด้านบริษัทมูดี้ส์คาดว่าราคาน้ำมัน WTI จะมีราคาเฉลี่ย 30 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีราคาเฉลี่ย 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 45 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า